|
เด็กไทยแชมป์หุ่นยนต์ระดับโลก
ขอปรบมือดังๆ ให้แก่ ทีม Independent มีสมาชิกดังรายนามต่อไปนี้ นายพินิจ เขื่อนสุวงศ์ นายธงชัย พจน์เสถียร นายสุชาติ จันลี นายอดิศักดิ์ ดวงแก้ว นายเนติ นามวงศ์ เป็มทีมนักศึกษาจาก สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ วิทยาเขตปราจีนบุรี ที่ไปคว้าแชมป์หุ่นยนต์กู้ภัย จากการแข่งขัน World RoboCup นอกจากการแข่งขัน Robocup Rescue แล้ว งาน Robocup 2006 ยังมีการแข่งขันหุ่นยนต์ทำงานบ้าน(Robocup@home) หุ่นยนต์ในระดับเยาวชน (Robocup Junior) หุ่นยนต์เตะฟุตบอล (Robocup Soccer) และหุ่นยนต์เตะฟุตบอลฮิวแมนนอยด์ (Humanoid League) ซึ่งสองประเภทหลังนี้ใช้เทคโนโลยีค่อนข้างซับซ้อน เป็นระบบอัตโนมัติทั้งหมด (Autonomous) โดยคนไปเกี่ยวข้องไม่ได้เลยในขณะแข่งขันจึงต้องมีส่วนของปัญญาประดิษฐ์ในสมองกลด้วย ปรากฏว่าปีนี้น้องๆนักศึกษาไทยสามารถเข้าไปถึงรอบสุดท้ายกระทบไหล่ทีมดังๆจาก อเมริกา เยอรมัน และญี่ปุ่นอย่างสมศักดิ์ศรี โดยทำให้ประเทศพัฒนาเหล่านั้น ทึ่ง ในสมรรถนะหุ่นยนต์ของทีมไทย แล้ววันหลังเมื่อโอกาสอำนวยจะเล่าให้ฟังว่า Robot Soccer และ Humanoid ไทยไปโชว์ลีลาอะไรมาบ้าง จนกรรมการผู้จัดการแข่งขัน: The Robocup Federation ต้องบรรจุประเทศไทยไว้ในแผนที่โลกของเทคโนโลยีหุ่นยนต์ เป็นสะพานต่อสำหรับสมาคมวิชาการหุ่นยนต์ไทยจะติดต่อขอจัด World Robocup ที่ประเทศไทยในอีกสองปีข้างหน้าครับ |
วันนี้ผมขอชื่นชมแชมป์ไทยหุ่นยนต์กู้ภัยโลกก่อนนะครับ
การแข่งขันหุ่นยนต์กู้ภัย เป็นการแข่งขันประดิษฐ์หุ่นยนต์เพื่อใช้สำหรับกู้ภัย ในสถานอุบัติภัยจำลองที่เกิดขึ้น อาทิ อัคคีภัย อุทกภัย ภัยจากแผ่นดินไหว หรือภัยพิบัติอื่นๆ โดยที่หุ่นยนต์จะต้องสามารถค้นหาผู้รอดชีวิตหรือผู้เสียชีวิต ที่ตกค้างในซากปรักหักพังต่างๆโดยผ่านการควบคุมระยะไกล ด้วยกล้องขนาดเล็ก หรือเซนเซอร์จับสัญญานชีพ อาทิความร้อน เสียง และการเคลื่อนไหว ซึ่งเซนเซอร์เหล่านี้ต้องติดไว้ที่ตัวหุ่นยนต์ เมื่อผมกราบเรียนรายงานความสำเร็จของแชมป์หุ่นยนต์ไทยให้ผู้ใหญ่ระดับสูงท่านหนึ่ง ได้รับคำถามว่า เหตุใดทีมเราจึงชนะทีมจากประเทศเทคโนโลยีชั้นนำได้ ผมตอบทันทีว่า ก็เพราะเด็กไทยเก่ง หากมีการสนับสนุนให้เพียงพอไม่แน่นะครับหุ่นยนต์ต้นแบบเช่นอาซิโมก็อาจเกิดจากฝีมือของเด็กไทยที่ สมองดีปฎิบัติเก่ง เช่นสมาชิกของทีม Independent ที่ผมบอกว่าปฏิบัติเก่งก็เพราะสามารถออกแบบได้อย่างรัดกุม ใช้เทคโนโลยีได้อย่างเหมาะสม คู่แข่งซึ่งใช้ของแพงเช่นเทคโนโลยีสแกนเนอร์ ก็มิอาจสู้กล้องและเซนเซอร์พื้นๆธรรมดาที่น้องใช้อยู่ได้เลย ออกแบบดักทางแก้ปัญหาปลายทางในระยะต้นได้นั้นเกิดจากมีประสบการณ์การสร้างชิ้นงานด้วยมือตนเอง (Hands on) นอกจากนั้นขณะแข่งขันน้องที่ต้อง บังคับหุ่นยนต์ ในห้องปิดห่างจากสนามออกไปเห็นสนามผ่านกล้องวีดิโอที่ติดตั้งอยู่บนหุ่นยนต์เท่านั้น ทั้งนี้เพื่อจำลองสถานการณ์จริงของการกู้ภัย ที่ส่งหุ่นยนต์เท่านั้นเข้าสำรวจในซากตึก ผู้บังคับจึงต้องมีสัมมาสติ และสัมมาสมาธิ ไม่เห่อเหิมกับคะแนนที่ทำได้ หรือหวั่นไหวที่พลาดท่าเสียคะแนนไปโดยไม่คาดคิด |
การให้คะแนน ขึ้นอยู่กับข้อมูลที่หุ่นยนต์หามาได้ เช่น ข้อมูลผู้ประสบภัย(10 คะแนน) เช่น สัญญาณชีพว่ายังมีชีวิตอยู่ รูปร่าง การเคลื่อนไหว ความร้อน ![]() คาร์บอนไดออกไซด์ หุ่นยนต์ต้องสามารถตรวจสอบได้อย่างน้อยสามข้อมูลและประมวลผลว่าผู้ประสบภัยยังมีสติอยู่หรือไม่? ถ้าถูกได้ไปอีก 5 คะแนน ข้อมูลของสถานที่พบผู้ประสบเหตุ (5 คะแนน) เช่น อยู่บนพื้น บางส่วนของร่างกายถูกซากปรักหักพังทับอยู่ ร่างกายทั้งหมดถูกฝังอยู่ หากพบแถบข้อมูลพิเศษจะได้รับคะแนนอีก 10 คะแนน การสร้างแผนที่ของสถานที่พบผู้ประสบภัยเพื่อหน่วยเสริมจะบุกเข้าไปช่วยเหลือคนเจ็บ คุณภาพของแผนที่ 10 คะแนน ความครอบคลุมพื้นที่อีก 10 คะแนน |
ทีม Independent ของไทย ได้รับคะแนนสูงถึง 109 คะแนน ทิ้งขาดประเทศเจ้าของเทคโนโลยีหุ่นยนต์ อันดับสองจากญี่ปุ่นและอิหร่านที่ได้ 80 คะแนน อเมริกาและเยอรมันได้ 66 คะแนน และ 39.5 คะแนนตามลำดับ![]() ผมมั่นใจว่า สมองคนแบบน้องๆนี่แหละครับ ที่จะไปสร้างสมองกลอัจฉริยะ ขอกราบวิงวอนให้รัฐบาลและเอกชนไทย สนับสนุนกลุ่มเยาวชนเหล่านี้ให้ก้าวต่อไปเป็น ผู้นำเทคโนโลยีหุ่นยนต์โลก ผมได้อีเมลล์บอกเพื่อนๆผมที่เป็นนักวิจัยและอาจารย์อยู่ที่ มหาวิทยาลัยเกียวโต คาร์เนกี้เมลลอน และ เอ็มไอทีว่า เทคโนโลยีนั้นเรียนทันกันได้ และอีกไม่นานการคิดค้นเทคโนโลยีชั้นแนวหน้าเพื่อประโยชน์สุขของมวลมนุษยชาติจะบังเกิดขึ้น ณ ที่นี้…ประเทศไทย วันนี้เป็นวันที่ผมดีใจที่สุดวันหนึ่งครับ ดร. ชิต เหล่าวัฒนา จบปริญญาตรีวิศวกรรมศาสตร์ (เกียรตินิยม) จากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้า ธนบุรี ไดัรับทุนมอนบูโช รัฐบาลญี่ปุ่นไปศึกษาและทำวิจัยด้านหุ่นยนต์ที่มหาวิทยาลัยเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น เข้าศึกษาต่อระดับปริญญาเอกที่มหาวิทยาลัยคาร์เนกี้เมลลอน สหรัฐอเมริกา ด้วยทุนฟุลไบรท์ และจากบริษัท AT&T ได้รับประกาศนียบัตรด้านการจัดการเทคโนโลยีจากสถาบันเทคโนโลยีแห่งมลรัฐแมสซาชูเซสต์ (เอ็มไอที) สหรัฐอเมริกา
|