หุ่นยนต์เพื่อผู้พิการและผู้สูงอายุ
ฟีโบ้:สถาบันวิทยาการหุ่นยนต์ภาคสนาม (FIBO) ได้กำหนดวิสัยทัศน์ในการใช้ เทคโนโลยีหุ่นยนต์เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของคนพิการและผู้สูงอายุ ให้มีความสามารถพึ่งตนเองได้โดยอาศัย ฟีโบ้ได้เริ่มสร้างกลุ่มนักวิจัยที่มีความเชี่ยวชาญในการพัฒนาเทคโนโลยีหุ่นยนต์และงานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับระบบช่วยเหลือ ระบบกายภาพบำบัดและระบบอำนวยความสะดวกของกลุ่มคนเป้าหมาย
ในปัจจุบัน ประเทศไทยมีประชากรจำนวนหนึ่งซึ่งมีข้อจำกัดความสามารถในการพึ่งตนเองในการใช้ชีวิตประจำวัน จากผลการศึกษาขององค์การอนามัยโลก ระบุว่า มีคนพิการร้อยละ 10 ของประชากรของประเทศ นั่นหมายถึงว่า ในประเทศไทยมีคนพิการไม่น้อยกว่า 6.6 ล้านคน ทั้งนี้มีคนพิการที่จดทะเบียนไว้ ที่สำนักส่งเสริมและพิทักษ์คนพิการ 528,766 คน แต่ก็ยังมีคนพิการอีกจำนวนมากที่ยังไม่ได้ลงทะเบียน นอกจากนี้จากการสำรวจโดยสำนักงานสถิติแห่งชาติ ในปี พ.ศ. 2546 พบว่ามีจำนวนผู้สูงอายุในประเทศไทยจำนวน 6.3 ล้านคน จากจำนวนประชากรทั่วราชอาณาจักร 63.6 ล้านคน นับเป็นร้อยละ 9.2 ซึ่งในปี พ.ศ. 2550 ประมาณการผู้สูงอายุจะขึ้นสูงถึง 7 ล้านคน ซึ่งจากการศึกษาเหล่านี้แสดงให้เห็นว่าจะมีประชากรจำนวนมากกว่าร้อยละ 10 ของประเทศ ที่มีข้อจำกัดในความสามารถในการพึ่งตนเองในการใช้ชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นการเคลื่อนที่ การทำภารกิจพื้นฐานต่างๆ เช่นการรับประทานอาหารเป็นต้น หากประชากรกลุ่มนี้ต้องอาศัยบุคคลอื่นในการดูแล ช่วยเหลือตลอดเวลาเพื่อดำเนินชีวิตประจำวัน จะต้องอาศัยประชากรในวัยทำงานเป็นจำนวนมากเพื่อดำเนินภารกิจนี้ ดังนี้การใช้เทคโนโลยีต่างๆเข้ามาช่วยแบ่งเบาภาระ และเสริมสร้างคุณภาพชีวิตให้กับผู้พิการและผู้สูงอายุจึงเป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ในปัจจุบัน
“เทคโนโลยีสิ่งอำนวยความสะดวก หมายถึง เทคโนโลยีที่ได้รับการ พัฒนาขึ้นหรือดัดแปลงจากที่มีอยู่เดิม นำมาผลิตเป็นอุปกรณ์หรือผลิตภัณฑ์ใหม่ เพื่อนำมาใช้ในการเพิ่มขีดความสามารถของผู้พิการให้สามารถทำงานหรือกิจกรรมต่างๆ ในชีวิตประจำวันได้แบบพึ่งพิงตัวเอง(Independent living) หรือพึ่งพิงผู้อื่นน้อยที่สุด และมีส่วนร่วมในสังคมได้อย่างเต็มที่ ทั้งนี้ครอบคลุมไปถึงการให้บริการ การประยุกต์ใช้ และการนำไปปฏิบัติเพื่อลดอุปสรรคในการทำกิจกรรมของผู้พิการ” [http://astec.nectec.or.th ] ประเทศที่พัฒนาแล้วส่วนใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกา และประเทศในยุโรป ได้เห็นความสำคัญในเรื่องของเทคโนโลยีสิ่งอำนวยความสะดวก และมีการสนับสนุนงานวิจัยในสาขานี้อย่างกว้างขวาง การนำเทคโนโลยีหุ่นยนต์มาพัฒนาสำหรับเทคโนโลยีสิ่งอำนวยความสะดวกนับเป็นแนวทางหนึ่งที่ได้รับการสนับสนุนอย่างแพร่หลาย แม้ว่าการวิจัยพัฒนาเทคโนโลยีทางด้านหุ่นยนต์นั้นในอดีตมุ่งเน้นไปในทางด้าน Fixed Robots ที่ใช้ในโรงงานอุตสาหกรรมเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสิทธิผลในการผลิต แต่ปัจจุบันสถาบันการศึกษาชั้นนำหลายแห่งของโลกได้หันมาให้ความสนใจวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีทางด้านหุ่นยนต์เพื่อนำมาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน และการช่วยมนุษย์ในภารกิจต่างๆมากขึ้น ทางสถาบันวิทยาการหุ่นยนต์ภาคสนาม (FIBO) มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี ได้มีการวิจัยและพัฒนาหุ่นยนต์ต้นแบบสองขามาตั้งแต่ปี 2543 โดยใช้วิธีขยายผลการวิเคราะห์เชิงพลศาสตร์ของ Thomas R. Kane, ZMP, Gravity Reaction Force, Conservation of Energy, นอกจากนี้ยังได้มีการนำความรู้ทางด้านระบบการมองเห็น (Vision System) กระบวนการคำนวณภาพ (Image Processing) และปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence) มาช่วยให้หุ่นยนต์สามารถทำงานได้อย่างชาญฉลาดมากขึ้น
จากงานวิจัยที่ผ่านมาของสถาบัน ได้มีการศึกษาทฤษฎีทางด้านพลศาสตร์การเดิน และพัฒนา สมการการเคลื่อนที่เชิงพลศาสตร์ขึ้น ซึ่งมีประโยชน์ต่อการวิเคราะห์ออกแบบตัวหุ่นยนต์ และสถาปัตยกรรมเพื่อใช้ควบคุมเสถียรภาพในการเดินของหุ่นยนต์ อีกทั้งได้ทำการศึกษาศาสตร์ด้านการนำทางด้วยภาพ โดยได้จัดสร้าง Algorithm พื้นฐานในการประมวลผลด้วยภาพ นอกจากนั้นยังได้ทำการศึกษาเบื้องต้นและพัฒนาส่วนพื้นฐานที่จะนำมาประกอบกันเป็นลำตัวหุ่นยนต์อันประกอบไปด้วยส่วนของมือที่มีลักษณะคล้ายมือของมนุษย์ และแขนหุ่นยนต์เป็นต้น
ดังนั้นสถาบันวิทยาการหุ่นยนต์ภาคสนามจึงเห็นว่าการพัฒนาต่อยอดงานวิจัยทางด้านหุ่นยนต์ที่ผ่านมาของสถาบันเพื่อนำมาประยุกต์ในการสร้างเทคโนโลยีเพื่อช่วยอำนวยความสะดวก สร้างระบบช่วยเหลือ และระบบกายภาพบำบัดสำหรับผู้พิการหรือผู้สูงอายุ เป็นแนวทางที่ชัดเจนในการสร้างประโยชน์โดยตรงให้กับประเทศ ซึ่งจะเป็นการยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนไทยซึ่งด้อยโอกาส ให้เป็นผู้ได้รับโอกาส และสามารถใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างมีศักยภาพสูงสุด ผลงานที่คาดว่าจะได้รับ
• แขนหุ่นยนต์ป้อนอาหารซึ่งควบคุมโดยสัญญาณชีวภาพ
• แขนเทียมและขาเทียมซึ่งควบคุมโดยสัญญาณชีวภาพ
• หุ่นยนต์เคลื่อนที่ภายในบ้านสำหรับเฝ้าระวังและช่วยเหลือผู้สูงอายุ
ท่านผู้อ่านสามารถส่งข้อคิดเห็น/เสนอแนะมาที่ผู้เขียนที่ djitt@fibo.kmutt.ac.th