จิตประดิษฐ์ - Institute of Field roBOtics (FIBO)
มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี
  • English
    • Thai

จิตประดิษฐ์

logo robot brain

จิตประดิษฐ์

ปัญญาประดิษฐ์เป็นความพยายามของมนุษย์ที่จะพัฒนาการทำงานของคอมพิวเตอร์และโปรแกรมตรรกะที่เกี่ยวข้องให้สามารถทำงานบางอย่างที่สมองมนุษย์ทำได้article64หรือในบางครั้งบรรลุผลลัพธ์ที่ดีกว่าความสามารถของมนุษย์เสียอีก ตัวอย่างจริงเรื่องหนึ่งที่ผมชอบเล่าให้ลูกศิษย์ฟังคือ สมัยผมไปเรียนที่ มหาวิทยาลัยคาร์เนกี้ เมลลอน มีการประลองหมากรุกระหว่างแชมป์โลกชาวรัสเซีย โปรแกรมปัญญาประดิษฐ์ DEEPTHOUGHT สร้างขึ้นมาในแนวทางนี้ จึงสามารถค้นหาคำตอบที่ถูกต้องผ่าน เส้นทางที่เป็นไปได้ (Game tree) มากกว่า “10 ล้านคำตอบ” นั่นคือ DEEPTHOUGHT สำรวจความเป็นไปได้ ถึง 1050 มากกว่าทีโปรแกรมคอมพิวเตอร์ทั่วไปจะทำได้ถึง 1040 เท่าในขณะที่ มีการทำวิจัยรายงานผล (Groots 1965) ว่า แชมป์หมากรุก นานๆทีถึงจำเป็นต้องค้นหาคำตอบที่ดีที่สุดจากความเป็นไปได้เพียง “100 คำตอบ” เท่านั้น อย่างไรก็ตามการแข่งขันครั้งแรก DEEPTHOUGHT แพ้จากการที่โปรแกรม “แฮงค์” คำนวณวกวนไปมาหลังจากการแข่งขันดำเนินไป ประมาณสามชั่วโมง สี่ปีต่อมาพบกันอีกที คราวนี้ DEEPTHOUGHT เอาชนะแชมป์คนเดียวกันไปได้ภายในเวลาเพียง 17 นาที

เป็นเรื่องที่น่าแปลกอยู่พอสมควรที่มนุษย์กล้าหาญคิดเรื่องปัญญาประดิษฐ์ทั้งๆที่เรามีความรู้เกี่ยวกับสมองของเราน้อยมาก ในการศึกษาทางวิทยาศาสตร์นั้นดูเสมือนเราเห็นรางๆว่ามีความเกี่ยวข้องระหว่างสมองกับความคิด สมองนั้นเปรียบเสมือนโรงงานหรือเครื่องจักรในกระบวนการผลิตที่ทำหน้าที่แปรข้อมูลที่ได้รับมาเป็นผลิตภัณฑ์ทางความนึกคิด สังขารปรุงแต่ง ตลอดจนการตัดสินใจ สิ่งที่แตกต่างมากๆจากขบวนการการผลิตสิ่งของทั่วไปคือ ผลที่ได้ถูกนำไปปรับปรุงตัวกระบวนการเองด้วยซึ่งในที่นี้ก็คือสมองนั่นเอง ดังนั้นสมองและความคิดจึงไม่สามารถแยกออกจากกันได้โดยสิ้นเชิง

สมองมนุษย์ซับซ้อนมาก มีเซลล์ทำงานกว่าหนึ่งพันล้านเซลล์ ยังไม่ปรากฏว่ามีเครื่องจักรใดในโลกมีองค์ประกอบส่วนย่อยทำงานมากมายถึงขนาดนี้ เพียงแค่คิดว่าแต่ละสมองจะมีวิธีการทำงานสัมพันธ์กันอย่างไรก็เหนื่อยแล้วครับ ความเป็นจริงนั้นเทคโนโลยียังไปไม่ถึงครับ กลุ่มเซลล์แทรกตัวอยู่รวมกันอย่างหนาแน่น เรายังไม่มีหุ่นยนต์ตัวจิ๋วระดับซูปเปอร์นาโนไปทำหน้าที่แยกแยะแต่ละเซลล์ออกมาศึกษาส่วนที่ติดต่อกัน นอกจากนี้เนื้อเยื่อเซลล์มีความละเอียดอ่อนมาก และถูกทำลายโดยง่าย น้องๆที่นิยมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ควรทราบนะครับว่าแต่ละจิบ แต่ละอึก สามารถฆ่าเซลล์สมองได้นับพันนับหมื่นเซลล์ทีเดียว

article64-2      เรื่องเทคโนโลยีไม่ถึง เครื่องไม้เครื่องมือไม่มีนั้น ยังไม่หนักหนาสาหัสเท่ากับการมิได้เตรียมตัวศึกษาและคิดเกี่ยวกับสมองอันซับซ้อนนี้อย่างมีประสิทธิผล ดังนั้นนานาประเทศจึงได้เริ่มการศึกษา “สมองและความคิด” อย่างจริงจัง อาทิเช่น ญี่ปุ่นซึ่งเป็นผู้นำเทคโนโลยีหุ่นยนต์โครงสร้างมนุษย์ “ฮิวแมนนอยด์” ประสบความสำเร็จอย่างสูงในการผสมผสานวิทยาการชั้นนำด้านแม็กคาทรอนิก และวิศวกรรมการผลิตอัตโนมัติเข้าด้วยกัน กลุ่มนักวิจัยที่มหาวิทยาลัยโตเกียวได้ทำการศึกษาต่อไปถึงขั้นสร้างสมองหุ่นยนต์ (Brain-Informatics Machines) ขึ้นมาเพื่อขจัดปัญหาที่ระบบควบคุมและวิธีการคำนวณและวิเคราะห์แบบปัจจุบันไม่สามารถทำได้ มีการใช้โครงสร้างตรรกะทาง “วิทยาการสมอง (neuroscience)” เข้ามาช่วยให้ฮิวแมนนอยด์สามารถเดินและวิ่งได้พลิ้วเช่นเดียวกับมนุษย์ คำว่าเข้ามาช่วยนี้หมายความถึงว่ารายละเอียดโปรแกรมการควบคุมแต่ละบรรทัดนั้นมนุษย์มิได้เขียนใส่ไปให้ สมองหุ่นยนต์รุ่นใหม่นี้เป็นผู้สร้างรายละเอียดนี้ขึ้นมาเอง ในทำนองเดียวกันความหวังที่จะให้สมองเทียมนี้ “ผลิตความคิด” ขึ้นมาจากข้อมูลที่ป้อนเข้าไปจึงเริ่มมีความเป็นไปได้อย่างยิ่ง เมื่อถึงวันนั้นเราคงได้เห็น “จิตประดิษฐ์” ได้เกิดขึ้นจริงแล้วล่ะครับarticle64-3 น้องๆที่กำลังศึกษาต่อหรือทำวิจัยในสาขานี้ ควรระวังหลุมพลาง “ขาดสติ” ที่มนุษย์มักติดกับหลงในความคิด การรู้ว่ากำลังคิดแตกต่างกับการรู้ในสิ่งที่คิด อย่างแรกนั้นเป็นการมีสติ ผมนั้นบางครั้งหลงคิดเลยเถิดไปถึงจนไม่รู้ว่าคิดอะไรอยู่

เรื่องการหลงนี้ปรมาจารย์สอนฟันดาบชาวญี่ปุ่นเคยกล่าวไว้ว่าจะฟันดาบให้ดี จิตต้องไม่ไหลตามโลกและขณะเดียวกันก็ไม่ทิ้งโลกด้วย คือต้องมีสติระลึกรู้สภาวะธรรมอยู่เสมอ เมื่อมีผู้ถามพระพุทธเจ้าว่าพระองค์ท่านก้าวข้ามบ่อน้ำ-บ่อกิเลสได้อย่างไร? ท่านเมตตาสอนว่า “เราก้าวข้ามได้เพราะเราไม่พักและเราไม่เพียร”

การพักก็จมน้ำไปไหลตามกิเลสเป็นกามสุขัลลิกานุโยค การเพียรหรือเพ่งจนนิ่งขัดธรรมชาติก็ไปไม่รอดเหมือนกัน

ดีที่สุดคือเดินสายกลางก้าวข้ามไปทั้งสองอย่างแหละครับ

——————————————————————————————
ข้อมูลจำเพาะของผู้เขียน

djitt2

 
ดร. ชิต เหล่าวัฒนา จบปริญญาตรีวิศวกรรมศาสตร์ (เกียรตินิยม) จากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้า ธนบุรี ไดัรับทุนมอนบูโช รัฐบาลญี่ปุ่นไปศึกษาและทำวิจัยด้านหุ่นยนต์ที่มหาวิทยาลัยเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น เข้าศึกษาต่อระดับปริญญาเอกที่มหาวิทยาลัยคาร์เนกี้เมลลอน สหรัฐอเมริกา ด้วยทุนฟุลไบรท์ และจากบริษัท AT&T ได้รับประกาศนียบัตรด้านการจัดการเทคโนโลยีจากสถาบันเทคโนโลยีแห่งมลรัฐแมสซาชูเซสต์ (เอ็มไอที) สหรัฐอเมริกา

 
ภายหลังจบการศึกษา ดร. ชิต ได้กลับมาเป็นอาจารย์สอนที่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้า ธนบุรี และเป็นผู้ก่อตั้งสถาบันวิทยาการหุ่นยนต์ภาคสนาม หรือที่คนทั่วไปรู้จักในนาม “ฟีโบ้ (FIBO)” เป็นหน่วยงานหนึ่งในมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้า ธนบุรี เพื่อทำงานวิจัยพื้นฐาน และประยุกต์ด้านเทคโนโลยีหุ่นยนต์ ตลอดจนให้คำปรึกษาหน่วยงานรัฐบาล เอกชน และบริษัทข้ามชาติ (Multi-national companies) ในประเทศไทยด้านการลงทุนทางเทคโนโลยี  การใช้งานเทคโนโลยีอัตโนมัติชั้นสูง และการจัดการเทคโนโลยีสารสนเทศอย่างมีประสิทธิภาพ

 

 

 

 

Categories: Post from Dr.Jiit