ประชากรหุ่นยนต์ - Institute of Field roBOtics (FIBO)
มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี
  • English
    • Thai

ประชากรหุ่นยนต์

logo robot brain
ประชากรหุ่นยนต์

article152-1การประยุกต์ ใช้งานหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติของประเทศไทย สามารถแบ่งตาม สาขาการประยุกต์ใช้งานได้คร่าวๆ ดังนี้
1. หุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติสำหรับใช้งานในอุตสาหกรรมและเกษตรกรรม
2. หุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติสำหรับใช้ทางการแพทย์
3. หุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติสำหรับใช้ทางการทหาร
4. หุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติสำหรับใช้ทางการศึกษา

สำหรับหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติที่ใช้ในอุตสาหกรรมในประเทศไทย มีอุตสาหกรรมหลักที่มีความต้องการใช้สูงคือ อุตสาหกรรมยานยนต์ อุตสาหกรรมฮาร์ดดิสก์ไดร์ฟและอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ โดยมีแนวโน้มความต้องการสูงขึ้นทุกปีตามลำดับ โปรดดูตารางแนบแสดงการเปรียบเทียบจำนวนการติดตั้งหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติสำหรับใช้งานในอุตสาหกรรมและจำนวนระบบในคลังของประเทศต่างๆทั่วโลกรวมทั้งประเทศไทยในปี 2003 ถึงปี 2005 จะเห็นได้ว่าประเทศไทยมีความต้องการใช้หุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติสำหรับอุตสาหกรรมเพิ่มมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โดยในปี 2004 มีความต้องการใช้หุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติเพิ่มขึ้นถึง 4.9 เท่าของปี 2003 และในปี 2005 มีความต้องการเพิ่มขึ้น 1.9 เท่าของปี 2004 และหากเทียบความต้องการใช้หุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติในภาคอุตสาหกรรมของประเทศไทยกับประเทศอื่นในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จะเห็นได้ว่าตลาดหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติของไทยมีการเจริญเติบโตสูงมากเมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆในภูมิภาค

ตารางเปรียบเทียบจำนวนการติดตั้งหุ่นยนต์และจำนวนหุ่นยนต์ในคลังของประเทศต่างๆ

Country Yearly installations Operational stock at year-end
2003 2004 2005 2003 2004 2005
Japan 31,588 37,086 50,501 348,734 356,483 373,481
USA 12,693 15,170 21,136 112,390 123,663 139,553
Germany 13,081 13,401 10,506 112,393 120,544 126,725
Korea 4,660 5,457 13,005 47,845 51,302 61,576
Taiwan 1,454 3,680 4,096 8,730 11,881 15,464
China 1,451 3,493 4,461 3,603 7,096 11,557
Singapore 48 244 424 5,273 5,443 5,463
Thailand 156 757 1,458 257 1,014 2,472
Malaysia 191 250 243 1,202 1,452 1,695
Vietnam 14 99 14 113
Indonesia 44 74 193 47 121 314
Philippines 20 65 80 28 93 173
ที่มา : World Robot Market 2005 Statistics, International Federation of Robotics,
World Robot Market 2006 Statistics, International Federation of Robotics
article152-2

ส่วนในด้านของเครื่องจักรกล กลุ่มอุตสาหกรรมเครื่องจักรกลและโลหะการ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ได้แบ่งผลิตภัณฑ์เครื่องจักรกลเป็นสามชนิด คือ
1. เครื่องจักรอุตสาหกรรม (Industrial Machinery) เป็นเครื่องจักรที่ใช้ในการผลิต สำหรับอุตสาหกรรมต่างๆ ซึ่งเครื่องจักรประเภทนี้ยังต้องอาศัยการนำเข้าจากต่างประเทศโดยเฉพาะจากประเทศญี่ปุ่นเป็นส่วนใหญ่ เพราะผลิตได้เองในประเทศน้อยมาก
2. เครื่องมือกล (Machine Tools) เป็นอุปกรณ์สำคัญที่ใช้ผลิตเครื่องจักรต่างๆ เช่น เครื่องกลึง เครื่องเจาะ เครื่องไส และเครื่องจักรซีเอ็นซี ปัจจุบันในประเทศไทยยังมีผู้ผลิตไม่มากเพราะเทคโนโลยียังด้อยกว่าต่างประเทศarticle152-3 3. เครื่องมือและอุปกรณ์ (Tooling and Accessories) เป็นประเภทอุตสาหกรรมแม่พิมพ์ ในประเทศไทยมีผู้ประกอบการจำนวนมาก และส่วนใหญ่ได้รับการสนับสนุนการลงทุนจาก BOI

สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยได้ระบุว่าอุตสาหกรรมเครื่องจักรกลการผลิตและเครื่องมือกลเป็นอุตสาหกรรมที่มีความต้องการสูงมากในประเทศ เพราะเป็นอุตสาหกรรมที่สนับสนุนอุตสาหกรรมอื่นทุกประเภท แต่เนื่องจากผู้ประกอบการภายในประเทศยังไม่สามารถผลิตเครื่องจักรที่ทันสมัยได้ตามความต้องการของลูกค้า จึงยังต้องอาศัยการนำเข้าเป็นหลัก โดยในแต่ละปีประเทศไทยมีการนำเข้าเครื่องจักรกลมูลค่ากว่าแสนล้านบาท และมีแนวโน้มจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นจึงควรมีการผลักดันให้เกิดการพัฒนาอุตสาหกรรมเครื่องจักรกลในประเทศไทย เพื่อลดการนำเข้าจากต่างประเทศ ส่วนด้านการส่งออกเครื่องจักรกลของประเทศไทยนั้นส่วนใหญ่เป็นเครื่องจักรที่ใช้เทคโนโลยีไม่สูงมาก โดยตลาดส่งออกที่สำคัญคือ เวียดนาม จีน และลาว

 

article152-4รูปแสดงสัดส่วนการนำเข้าเครื่องจักรกลของกลุ่มประเทศอาเซียนจากประเทศที่สาม
ที่มา : โครงการศึกษาผลกระทบและการกำหนดท่าทีไทยต่อการจัดตั้งเขตการค้าเสรีเอเชียตะวันออก อุตสาหกรรมเครื่องจักรกล

 

 

 

article152-5รูปแสดงสัดส่วนการส่งออกเครื่องจักรกลของกลุ่มประเทศอาเซียนไปยังประเทศที่สาม
ที่มา : โครงการศึกษาผลกระทบและการกำหนดท่าทีไทยต่อการจัดตั้งเขตการค้าเสรีเอเชียตะวันออก อุตสาหกรรมเครื่องจักรกล

 

 

 

เมื่อเทียบกับประเทศต่างๆในกลุ่มอาเซียน ประเทศไทยมีความเชี่ยวชาญทางด้านงานเชื่อมโลหะและการผลิตเครื่องมือกลเป็นพิเศษ แต่ยังขาดความเชี่ยวชาญในการผลิตเครื่องจักรกลอัตโนมัติและหุ่นยนต์อุตสาหกรรม ซึ่งเป็นผลมาจากการที่ผู้ประกอบการของไทยมีขนาดเล็กไม่มีแรงจูงใจในการวิจัยเพื่อพัฒนาการผลิตของตน นอกจากนี้ยังขาดนโยบายสนับสนุนจากทางภาครัฐอย่างจริงจัง โดยภาครัฐของไทยมักจะเน้นการส่งเสริมอุตสาหกรรมปลายน้ำมากกว่า

ตารางสรุปภาพรวมการวิเคราะห์อุตสาหกรรมเครื่องจักรกลของประเทศไทย

ศักยภาพในการแข่งขัน ปัจจัยด้านอุปสงค์ ความสำคัญต่อมูลค่าการค้าของประเทศ
ประเทศไทยไม่มีความสามารถในการแข่งขันในเชิงต้นทุน และในเชิงการวิจัยและพัฒนา เนื่องจากผู้ประกอบการในส่วนของอุตสาหกรรมเครื่องมือกลส่วนใหญ่นั้น มีลักษณะการประกอบการในรูปแบบของผู้แทนจำหน่าย และไม่มีแรงจูงใจในการวิจัยและพัฒนา เมื่อประกอบกับการขาดแนวนโยบายพัฒนาที่ชัดเจนจึงทำให้ทิศทางของอุตสาหกรรมเครื่องจักรกลไม่ชัดเจน เมื่อพิจารณาจากอุตสาหกรรมต่อเนื่อง โดยเฉพาะ อุตสาหกรรมชิ้นส่วนยานยนต์ซึ่งมีแนวโน้มที่จะเกิดการควบรวมกิจการของผู้ประกอบการรายเล็กโดยบริษัทข้ามชาติหรือบริษัทที่มีการร่วมลงทุนระหว่างผู้ประกอบการไทยและต่างชาติ ซึ่งจะก่อให้เกิดผลต่อเนื่องในด้านการกำหนดอุปสงค์ของอุตสาหกรรมเครื่องจักรกล โดยกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ ซึ่งมีเป้าหมายสำคัญในด้านการลดต้นทุนของผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ และมุ่งเน้นการวิจัยและพัฒนาให้ก้าวไปสู่ลักษณะของโมดูลจึงทำให้ปัจจัยอุปสงค์มีแนวโน้มที่จะปรับตัวอย่างต่อเนื่อง และรุนแรง เมื่อพิจารณาจากนัยด้านการค้าระหว่างประเทศ อุตสาหกรรมเครื่องจักรกลยังจัดอยู่ในกลุ่มอุตสาหกรรมที่มีความสำคัญในลำดับกลาง เมื่อเปรียบเทียบกับอุตสาหกรรมเกษตร หรืออุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์
ที่มา : โครงการศึกษาผลกระทบและการกำหนดท่าทีไทยต่อการจัดตั้งเขตการค้าเสรีเอเชียตะวันออก อุตสาหกรรมเครื่องจักรกล

ส่วนทางด้านการประยุกต์ใช้งานด้านอื่นๆ ได้แก่ ด้านการแพทย์ ด้านการทหาร และด้านการศึกษา ประเทศไทยมีแนวโน้มความต้องการประยุกต์ใช้หุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติในด้านarticle152-6ต่างๆเหล่านี้มากขึ้น โดยในปัจจุบันประเทศไทยยังมีความสามารถในการผลิตระบบเองในประเทศได้น้อยและมีมูลค่าการนำเข้าระบบจากต่างประเทศสูงมากเมื่อเทียบกับต่างประเทศ

บทสรุป
จากผลการศึกษาสถานภาพและแนวโน้มของวิทยาการหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติในประเทศต่างๆทั่วโลก แสดงให้เห็นว่าในปัจจุบันประเทศต่างๆทั่วโลกมีความต้องการใช้หุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติที่สูงขึ้น และมีแนวโน้มที่จะเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ สำหรับหุ่นยนต์อุตสาหกรรม มีแนวโน้มตลาดที่เติบโตอย่างรวดเร็ว ซึ่งมีอุตสาหกรรมยานยนต์และอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์เป็นตลาดหลัก ในทางเดียวกันหุ่นยนต์บริการก็มีแนวโน้มเป็นที่ต้องการของตลาดเพิ่มขึ้นเช่นกัน ซึ่งหุ่นยนต์ประเภทนี้ส่วนมากจะเป็นหุ่นยนต์สำรวจ หุ่นยนต์รักษาความปลอดภัย หุ่นยนต์ทางการแพทย์ และหุ่นยนต์ใช้ในบ้านต่างๆ เช่น หุ่นยนต์ทำความสะอาดและหุ่นยนต์ตัดหญ้า เป็นต้น

article152-7นอกจากนี้จากการศึกษานโยบายและแนวทางการพัฒนาวิทยาการหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติของกลุ่มประเทศผู้นำในสาขา อันได้แก่ ประเทศญี่ปุ่น ประเทศเกาหลี ประเทศสหรัฐอเมริกา และกลุ่มประเทศยุโรป พบว่าในแต่ละประเทศมีจุดแข็งทางด้านวิทยาการหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติที่แตกต่างกัน โดยประเทศญี่ปุ่นจะเน้นไปในหุ่นยนต์ประเภทที่ใช้ในอุตสาหกรรม หุ่นยนต์คล้ายมนุษย์ และหุ่นยนต์บริการใช้ส่วนตัว ส่วนประเทศเกาหลีใต้ได้ประกาศยุทธศาสตร์หุ่นยนต์และประกาศจรรยาบรรณหุ่นยนต์(Robot Ethics) สำหรับประเทศสหรัฐอเมริกาก็เป็นผู้นำทางด้านหุ่นยนต์ภาคสนาม หุ่นยนต์ใช้ในกองทัพและอวกาศ และหุ่นยนต์การแพทย์ และสำหรับกลุ่มประเทศยุโรปมีจุดแข็งทางด้านหุ่นยนต์อุตสาหกรรม และหุ่นยนต์การแพทย์ ซึ่งสามารถสรุปแนวทางการพัฒนาวิทยาการหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติได้ว่า ประเทศสหรัฐอเมริกามีแรงขับเคลื่อนหลักจากทางการทหาร ส่วนในกลุ่มประเทศยุโรป ประเทศญี่ปุ่น และประเทศเกาหลีใต้ จะมีแรงขับเคลื่อนมาจากสังคมและเศรษฐกิจเป็นหลัก

ส่วนผลจากการเปรียบเทียบสถานภาพวิทยาการหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติของประเทศไทยกับต่างประเทศ สามารถสรุปได้ว่า ทางด้านหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติที่ใช้ในอุตสาหกรรม ประเทศไทยมีแนวโน้มความต้องการใช้หุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติในภาคอุตสาหกรรมอยู่ในเกณฑ์สูงเมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยมีอุตสาหกรรมผู้ใช้หลักคือ อุตสาหกรรมยานยนต์ อุตสาหกรรมฮารด์ดิสก์ไดร์ฟ และอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งในปัจจุบันประเทศไทยยังต้องอาศัยการนำเข้าหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติจากต่างประเทศซึ่งมีมูลค่าสูงเป็นหลัก โดยข้อมูลจากกลุ่มอุตสาหกรรมเครื่องจักรกลและโลหะการ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยระบุว่า สาเหตุที่ประเทศไทยยังสามารถผลิตหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติขึ้นใช้เองในประเทศได้น้อย เป็นผลมาจากการที่ผู้ประกอบการของไทยมีขนาดเล็กไม่มีแรงจูงใจในการวิจัยเพื่อพัฒนาการผลิตของตน นอกจากนี้ยังขาดนโยบายสนับสนุนจากทางภาครัฐอย่างจริงจัง ดังนั้นจึงควรมีการผลักดันให้รัฐบาลไทยมีนโยบายสนับสนุนการผลิตหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติขึ้นใช้เองในประเทศไทยผ่านกระทรวงอุตสาหกรรมและมีโครงการสนับสนุนการลงทุนของคนไทยจากบีโอไอ เพื่อรองรับความต้องการที่เพิ่มสูงขึ้นของประเทศและเพื่อลดมูลค่าการนำเข้าระบบจากต่างประเทศ
ท่านผู้อ่านสามารถส่งข้อคิดเห็น/เสนอแนะมาที่ผู้เขียนที่ djitt@fibo.kmutt.ac.th

——————————————————————————————

Categories: Post from Dr.Jiit