ถ่ายทอดเทคโนโลยีหุ่นยนต์ผ่านการแข่งขัน Robocup Soccer - Institute of Field roBOtics (FIBO)
มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี
  • ไทย
    • อังกฤษ

ถ่ายทอดเทคโนโลยีหุ่นยนต์ผ่านการแข่งขัน Robocup Soccer

logo robot brain

ถ่ายทอดเทคโนโลยีหุ่นยนต์ผ่านการแข่งขัน Robocup Soccer

สมาคมวิชาการหุ่นยนต์ไทยเตรียมการถ่ายทอดเทคโนโลยีหุ่นยนต์ให้กับเยาวชนไทยผ่านการแข่งขัน Robocup Soccer ในปีนี้ทางสมาคมได้เชิญมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน  อาจารย์ ปัญญา  เหล่าอนันตน์ กรรมการของสมาคมและอาจารย์ของคณะวิศวกรรมศาสตร์ของมหาวิทยาลัยเกษตรศาตร์ ได้วางแผนดำเนินการอย่างละเอียดไว้ดังต่อไปนี้ครับ

142-1

เป้าหมายสำคัญคือการพัฒนาความสามารถของเยาวชนที่สนใจงานด้านหุ่นยนต์  ให้มีความสามารถสูงขึ้น เพื่อก้าวเข้าสู่การแข่งขันในเวทีระดับโลก ตลอดจนการต่อยอดไปสู่สิ่งประดิษฐ์อื่น ๆ ที่ใช้ฐานเทคโนโลยีจากการแข่งขันหุ่นยนต์

อาจารย์ปัญญา จะใช้การแข่งขัน RoboCup Soccer กระตุ้นให้เกิดการแลกเปลี่ยนความรู้ ความก้าวหน้าด้านวิทยาการหุ่นยนต์สนับสนุนการเปิดเผย source code ,ขั้นตอนการออกแบบหุ่นยนต์  เป็น เอกสารหรือสื่อที่เผยแพร่สู่สาธารณะได้  นอกจากนี้ยังสนับสนุนการเปิด Web site  Robocup ประเทศไทย เพื่อการแลกเปลี่ยนความรู้ ประสบการณ์ เปิดให้มีการ download ข้อมูลหรือโปรแกรมหรือเครื่องมือพัฒนาที่เป็นแบบ open source และตลอดจนการรายงานผลการแข่งขัน
กิจกรรมที่สำคัญอีกอย่างคือการจัดฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการถ่ายทอดความรู้ไปสู่เยาวชนรุ่นใหม่  เพื่อเป็นการสะสมองค์ความรู้ที่ได้จากการแข่งขันหุ่นยนต์ไปสู่คนรุ่นต่อไป อย่างเป็นระบบ โดยมีการจัดอบรมทั้งแบบเริ่มต้น และ แบบขั้นสูง เพื่อตอบสนองผู้สนใจในหลากหลายระดับความสามารถ

142-2

ผลจาการทำงานอย่างมีระบบข้างต้นทำให้สมาคมฯ สามารถเพิ่มความถี่การจัดการแข่งขันให้มากขึ้น เพื่อเป็นการเปิดโอกาสในการทดสอบความสามารถ และ เป็นการช่วยกระตุ้นเยาวชนให้เกิดการพัฒนาการด้านความสามารถของหุ่นยนต์ให้สูงขึ้นโดยผ่านระบบการแข่งขัน
สนับสนุนการแชร์ทรัพยากรร่วมกัน เพื่อลดต้นทุนการพัฒนาหุ่นยนต์สำหรับการแข่งขัน

ผมขอเชิญชวนภาครัฐและเอกชนมาช่วยให้การสนับสนุน กิจกรรมเหล่านี้ที่มีความหมายต่อการพัฒนาความสามารถทางเทคโนโลยีของเยาวชนไทยด้วยครับ

การดำเนินการแบ่งเป็น 2 แนวทาง ที่ทำควบคู่กัน คือ
1. การจัดการอบรมเชิงปฏิบัติการ
2. การจัดการแข่งขันแบบสะสมคะแนนแบบ Premier League และ การจัดแบ่งสายการแข่งขันแบบอิงการจัดอันดับผลงานของทีมต่าง ๆ ในรูปแบบ Division

การจัดการอบรมเชิงปฏิบัติการ
• จัดอบรมอย่างน้อยเดือนละ 2 ครั้ง
• แบ่งการอบรมเป็น 2 แบบ คือ แบบสำหรับผู้เริ่มต้น กับ แบบขั้นสูง
• เนื้อหาหลักสูตร ได้แก่ ระบบอิเลคทรอนิกส์ในหุ่นยนต์ , ระบบเครือข่ายการสื่อสารในหุ่นยนต์ , ระบบจักรกลในหุ่นยนต์ ระบบการมองเห็น และ ระบบปัญญาประดิษฐ์  นอกจากนี้ นักศึกษาจะต้องเรียนรู้การค้นคว้าจากแหล่งความรู้ที่เป็น Open source ที่ต่างประเทศเขามีแจก ซึ่งไม่ง่ายที่จะ Copy แล้วจะทำได้เลย ต้องมีความรู้มากและต้องเอาไปต่อยอดด้วย ทั้งนี้เพื่อให้เกิดการพัฒนาแบบก้าวกระโดดได้เร็วขึ้น ถ้าจะให้ทันกับต่างประเทศในเวทีการแข่งขันระดับโลก
• วิทยากร ได้แก่ อาจารย์ หรือ นักศึกษาที่มีประสบการณ์จากทีมต่าง ๆ
• วัสดุและอุปกรณ์จัดอบรม ควรจะฟรีสำหรับผู้เข้าอบรม ถ้าแจกฟรีได้ก็ยิ่งดี เพื่อเอาไปทำต่อได้ หลักจากอบรมเสร็จ
• การคัดเลือกผู้เข้าอบรม อาจให้สถาบันต่าง ๆ จัดส่งคนเข้าร่วมอบรม และ มีข้อกำหนดว่า ต้องเข้าร่วมการแข่งขัน นักศึกษาต้องมีสถานที่สำหรับทำงานในสถาบัน มีเงินทุนสนับสนุนจากสถาบัน และ มีอาจารย์ที่ปรึกษามาคอยดูแล นอกจากนี้ก็อาจมีการกำหนดจำนวนผู้เข้าอบรมให้เหมาะสม
• สถานที่จัดอบรม อาจใช้สถานที่ของสถาบันต่าง ๆ เวียนจัดกัน ไป หรือ เลือกสถานที่ตามความพร้อมของห้อง Lab หรือ Shop และ ห้องจัดฝึกอบรม  ห้องคอมพิวเตอร์ ซึ่งควรจะมีควบคู่กัน
• งบประมาณ ขอสนับสนุนจากสปอนเซอร์ต่าง ๆ
• เผยแพร่เอกสาร บันทึก VDO และสื่อที่ใช้ในการอบรมลงบน Web site เพื่อเผยแพร่ความรู้สู่สาธารณะ และตลอดจนการถาม-ตอบ ปัญหาในระหว่างการพัฒนาหุ่นยนต์

142-3

การจัดการแข่งขันแบบสะสมคะแนนแบบ Premier League (คล้าย ๆ ฟุตบอลอังกฤษ) และ การจัดแบ่งสายการแข่งขันแบบอิงการจัดอันดับผลงานของทีมต่าง ๆ ในรูปแบบ Division
• จัดแข่งขันเดือนละ 1 ครั้ง หรือ จัดแทรกอยู่ในงาน Event ต่าง ๆ
• เพื่อลดจำนวน match การแข่งขันที่แต่ละทีมจะต้องลงแข่ง ก็ให้ใช้วิธีแบ่งสายการแข่งขันเป็นแบบอิงการจัดอันดับผลงานของทีมต่าง ๆ ในรูปแบบ Division
• ต่อ 1 Division ควรจะมีจำนวนทีมมากสุดไม่เกิน  4 ทีม
• การจัดแบ่ง Division อาจมีซัก 2 ส่วนในระยะเริ่มต้น คือ Division 1 และ Division 2  (หรือจะมีการแบ่งที่มากขึ้นก็ได้ ถ้ามีทีมผู้สนใจมาสมัครมากขึ้น)
• โดยทีม Division 1 ถือว่ามีความสามารถสูงกว่า ทีมใน Division 2
• ปัจจุบันเรามีตัวเลขการจัดอันดับผลงานการแข่งขันเก็บไว้แล้วจากการแข่งขันในช่วงต้นปี 2008 ที่ผ่านมา
• การแข่งขันในแต่ละ Division จะเป็นการแข่งแบบพบกันหมด และมีการจัดอันดับแต้มคะแนนสะสม
• เพื่อการแข่งขันครบหมด ทีมที่อยู่บนสุดของตารางจัดอันดับใน Division ก็จะได้รับการเลื่อนตำแหน่งไปสู่ Division ที่สูงกว่า ส่วนทีมที่อยู่ท้ายสุดของตารางจัดอันดับใน Division ก็จะตกชั้นไปอยู่ใน Division ที่ต่ำกว่า
• ทีมที่ได้เลื่อนชั้นไปสู่ Division ที่สูงกว่า ก็น่าจะมีรางวัลตอบแทน
• ถ้าจัดการแข่งขันเดือนละครั้ง (แต่มีหลาย match แบบพบกันหมดในแต่ละ Division) ก็จะมีการปรับตารางอันดับกันใหม่ และ แน่นอนว่า ทีมที่ได้เลื่อนชั้นขึ้นไปสู่ Division ที่สูงกว่า ก็จะได้รับรางวัลสนับสนุน (การแจกรางวัลมีเดือนละครั้ง)
• อนุญาตให้แต่ละทีมมีสปอนเซอร์สนับสนุนทีม
• การขึ้น-ลงของอันดับในแต่ละทีม จะทำให้เกิดความตื่นเต้นเร้าใจ การลุ้นระทึก และเกิดแฟนคลับ (ซึ่งจริง ๆ ก็คือ สถาบันในสังกัดนั่นเอง) ที่จะต้องมาติดตามเชียร์ผลงานของทีมในสังกัด และ คาดหวังว่าจะได้รับการสนับสนุนจากสถาบันในสังกัด  ทั้งนี้อาจมีแรงกดดันทั้งจากเรื่องชื่อเสียง มาเป็นส่วนประกอบด้วย
• การแข่งขันแบบนี้ จะเกิดการพัฒนาอย่างก้าวกระโดดและต่อเนื่อง ไม่ใช่แข่งเสร็จแล้วก็ทิ้งขว้างไป ปีหน้าค่อยเริ่มใหม่
• แต่ส่วนสำคัญก็คือ ทุกครั้งที่จัดการแข่งขัน จะต้องกำหนดให้ทุกทีมเผยแพร่ Open source ด้วยเสมอ เพื่อจะได้เกิดการต่อยอด เร่งการพัฒนาให้เร็วขึ้นได้
• การประชาสัมพันธ์การแข่งขัน  จะเกิดขึ้นถี่ตามธรรมชาติ และ ถ้าเป็นไปได้ อาจจะเกิด คอลัมม์เฉพาะในหนังสือพิมพ์หรือวารสารก็ได้ โดยเฉพาะการใส่ตารางผลการแข่งขันในแต่ละเดือนผ่านทางสื่อต่าง ๆ
• มีการจัดรายการหรือคอลัมม์รายงานผล หรือวิเคราะห์ผลของแต่ละทีม ทั้งในด้านศักยภาพ เทคโนโลยีที่ใช้ หรือ ผลงานของทีม  ในแต่ละครั้งที่จะมีการแข่งขัน

ทางสมาคมวิชาการหุ่นยนต์ไทยขอเชิญน้องๆ วิทยาลัยและมหาวิทยาลัยที่สนใจเทคโนโลยีหุ่นยนต์เข้าร่วมโครงการนี้ อาจารย์ปัญญาได้เตรียมรายละเอียดเพิ่มเติมเผยแพร่ต่อสาธารณะในไม่ช้านี้ครับ

ท่านผู้อ่านสามารถส่งข้อคิดเห็น/เสนอแนะมาที่ผู้เขียนที่ djitt@fibo.kmutt.ac.th


 

ข้อมูลจำเพาะของผู้เขียน

ดร. ชิต เหล่าวัฒนา จบปริญญาตรีวิศวกรรมศาสตร์ (เกียรตินิยม) จากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้า ธนบุรี ไดัรับทุนมอนบูโช รัฐบาลญี่ปุ่นไปศึกษาและทำวิจัยด้านหุ่นยนต์ที่มหาวิทยาลัยเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น เข้าศึกษาต่อระดับปริญญาเอกที่มหาวิทยาลัยคาร์เนกี้เมลลอน สหรัฐอเมริกา ด้วยทุนฟุลไบรท์ และจากบริษัท AT&T ได้รับประกาศนียบัตรด้านการจัดการเทคโนโลยีจากสถาบันเทคโนโลยีแห่งมลรัฐแมสซาชูเซสต์ (เอ็มไอที) สหรัฐอเมริกา

djitt2

ภายหลังจบการศึกษา ดร. ชิต ได้กลับมาเป็นอาจารย์สอนที่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้า ธนบุรี และเป็นผู้ก่อตั้งสถาบันวิทยาการหุ่นยนต์ภาคสนาม หรือที่คนทั่วไปรู้จักในนาม “ฟีโบ้ (FIBO)” เป็นหน่วยงานหนึ่งในมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้า ธนบุรี เพื่อทำงานวิจัยพื้นฐาน และประยุกต์ด้านเทคโนโลยีหุ่นยนต์ ตลอดจนให้คำปรึกษาหน่วยงานรัฐบาล เอกชน และบริษัทข้ามชาติ (Multi-national companies) ในประเทศไทยด้านการลงทุนทางเทคโนโลยี  การใช้งานเทคโนโลยีอัตโนมัติชั้นสูง และการจัดการเทคโนโลยีสารสนเทศอย่างมีประสิทธิภาพ

 

Categories: บทความของ ดร. ชิต เหล่าวัฒนา