โอกาสของ SMEs ไทย กับ “Digital Economy” ตอนที่ 1

บทความโดย ดร.อรพดี จูฉิม

หลักสูตรธุรกิจเทคโนโลยี สถาบันวิทยาการหุ่นยนต์ภาคสนาม มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี

Digital Economy หรือเศรษฐกิจแบบดิจิตอล เป็นนโยบายเศรษฐกิจล่าสุดที่กำลังได้รับความสนใจจากสังคมไทยเป็นอย่างมาก และเป็นหนึ่งในนโยบายหลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ อย่างไรก็ตามกลุ่มผู้ประกอบการโดยเฉพาะ SMEs จำนวนมาก ซึ่งเป็นกลุ่มพลังที่ใหญ่ที่สุดของภาคธุรกิจยังมีข้อสงสัยว่า Digital Economy คืออะไร และจะหาโอกาสทางธุรกิจจากระบบเศรษฐกิจแบบดิจิตอลได้อย่างไร

Digital Economy ที่เขาพูดถึงกัน

Digital Economy คือ การขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ โดยการนำเอาเทคโนโลยีสารสนเทศหรือไอที เข้ามาใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ และสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผลผลิตมวลรวมของประเทศ

Digital Technology เป็นฐานสำคัญของไอที ซึ่งอาศัยการใช้เลข 0 และ 1 ซึ่งอยู่ในลักษณะของ Binary System ในการส่งสัญญาณที่มีรูปแบบไม่ต่อเนื่อง มีค่าที่เป็นไปได้ในรูปแบบของแรงดันไฟฟ้าที่มีค่า 0 หรือ 1 เท่านั้น เป็นสัญญาณที่ทนต่อการรบกวนได้ดีส่วนใหญ่กระทำผ่านใยแก้วนำแสง (Optic Fiber)

ไอที คือ การผนวกเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์เข้ากับเทคโนโลยีโทรคมนาคม มาใช้ในงานจัดการข้อมูล ข่าวสาร หรือที่เรียกว่าสารสนเทศ สังคมที่มีโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคม (เช่น เครือข่ายใยแก้วนำแสงเป็นตัวกลางนำเสียง ข้อมูลและภาพสู่โทรศัพท์และอุปกรณ์ไอทีทั้งหลาย / ชุมสาย / เสาส่งสัญญาณ / สถานีรีเลย์สัญญาณ ฯลฯ) ที่มีคุณภาพและครอบคลุมพื้นที่กว้างขวาง มีการบริหารจัดการเครือข่ายที่ดี ตลอดจนมีการประยุกต์ซอฟต์แวร์ และมีกลไกในการประสานการใช้โครงสร้างพื้นฐานที่ดี จะเป็นกุญแจสำคัญสู่การเป็น Digital Economy

Digital Economy ที่เกี่ยวกับผู้ประกอบการ SMEs

การพัฒนาระบบเศรษฐกิจแบบดิจิตอลแบ่งเป็น 3 ขั้นตอน คือ

1.Digital Commerce หรือการค้าบนระบบดิจิตอล สามารถกระตุ้นการพัฒนาเศรษฐกิจได้รวดเร็วและเห็นได้ชัดที่สุด ปัจจุบันการค้าขายบนโลกออนไลน์มีความหลากหลายและพัฒนาการที่มีความสมบูรณ์ซับซ้อนมากขึ้น ในอดีตมักกล่าวถึง e-commerce หรือการขายของผ่านเว็บไซต์ออนไลน์ แต่ในยุคปัจจุบันตลาดการค้าดิจิตอลได้แตกแขนงไปสู่ mobile-commerce หรือการค้าผ่านอุปกรณ์มือถือ และ Social Commerce หรือการค้าขายแลกเปลี่ยนผ่านเครือข่ายสังคมออนไลน์

2. Digital Transformation หรือการใช้ดิจิตอลเพื่อพลิกโอกาสทางธุรกิจคือ การนำเอาเทคโนโลยีดิจิตอลต่าง ๆ มาประยุกต์ใช้ให้เกิดมูลค่าทางธุรกิจนอกเหนือจากการค้า มูลค่าที่สามารถสร้างได้ในส่วนนี้อาจไม่ได้เป็นเรื่องของยอดขายหรือเม็ดเงิน แต่เป็นเรื่องของประสิทธิภาพในการทำธุรกิจ และขีดความสามารถในการแข่งขันด้านการทำงาน ลดต้นทุน เพิ่มความพึงพอใจของลูกค้า

3.Digital Consumption หรือการบริโภคเนื้อหาดิจิตอลคือ การนำเทคโนโลยีมาใช้เป็นช่องทางการซื้อขายแลกเปลี่ยนสินค้าหรือบริการที่มีอยู่เดิม และการใช้ Digital Technology มาประยุกต์เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพในการทำธุรกิจต่าง ๆ ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดคือ มูลค่าทางการตลาดที่เกิดจากการขายสติกเกอร์บนแอพแชต เช่น LINE ซึ่งในปัจจุบันสำหรับOfficial Account ในไทยมีกว่า 70 แบรนด์ที่ใช้ไลน์เป็นช่องทางการทำตลาดออนไลน์ จากการที่มีเครื่องมือช่วยเหลือหลากหลาย เช่น ช่วยออกแบบสติ๊กเกอร์ แนะนำการทำคอนเทนต์บน Official Account เป็นต้น

SMEs ไทยกับ Digital Economy

สำหรับผู้ประกอบการ SMEs นั้น สามารถทำได้ทันทีทั้ง 3 กลุ่ม คือ เริ่มทำการตลาดและขยายช่องทางผ่านโลกออนไลน์ นำเทคโนโลยีเข้ามามีส่วนร่วมในการพัฒนาสินค้าและการบริการทั้งภายในภายนอกองค์กร การวิเคราะห์และจัดการข้อมูลได้อย่างรวดเร็ว การเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการ การลดต้นทุนการประกอบการ สร้างคุณค่าที่จับต้องไม่ได้หรือสร้างประสบการณ์ที่มีค่าผ่านเทคโนโลยีดิจิตอล เพิ่มช่องทางการค้าและก่อให้เกิดสินค้าและบริการใหม่ที่ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค

ในตอนต่อไปผู้เขียนจะกล่าวถึงรูปแบบของธุรกิจ SMEs ที่อาจต้องประสบกับวิกฤติเมื่อเข้าสู่ยุคของระบบเศรษฐกิจแบบดิจิตอล

ที่มา : http://www.thairath.co.th/content/458467, http://www.ega.or.th/Content.aspx?c_id=804

ผู้สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม หลักสูตรปริญญาโท สาขาวิชาธุรกิจเทคโนโลยี
สถาบันวิทยาการหุ่นยนต์ภาคสนาม (FIBO) มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี
โทร. 0-2470-9715-6
http://fibo.kmut.ac.th/
Facebook: FIBOKMUTT และ TEPKMUTT